วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี


วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก)





แดนชมพูทวีปนั้นในวันเก่า  
อาจนับเอาเป็นศูนย์กลางได้สร้างสรรค์
วัฒนธรรมมากมวลล้วนสำคัญ
เนิ่นนานวันสืบสายขยายไป
ทั้งศิลปะวรรณกรรมล้ำคุณค่า
ยังก่อเกิดศาสนาน่าเลื่อมใส
พราหมณ์ฮินดูเก่าแก่มาแต่ไร
แต่ครั้งกรุงสุโขทัยได้ยลยิน




ทั้งอักษรภาษาสารพัด
ล้วนแปลงดัดจากอินเดียเสียทั้งสิ้น
พิธีกรรมทำมาเป็นอาจิณ
ทุกฐานถิ่นแลเห็นเป็นธรรมดา
เหตุด้วยพราหมณ์รู้พระเวทย์วิเศษศาสตร์
จึงสามารถชี้นำธรรมกถา
สรรพศิลป์สารพัดปรัชญา
เป็นครูบาอาจารย์ชำนาญวิทย์
พราหมณ์ศรัทธาบวงสรวงปวงเทวะ
กฤษณะพรหมอิศวรล้วนศักดิ์สิทธิ์
สร้างสถานเทวาลัยไว้บูชิต
ถือเป็นกิจพึงกระทำนำชีวี






ที่สีลมมีศาสนสถาน
ผู้คนขานเรียก "วัดแขก" แปลกวิถี
"วัดพระศรีมหาอุมาเทวี"
นาถนรียิ่งใหญ่ในตำนาน
มเหสีศิวะเจ้าจอมเทเวศน์
มีฤทธิ์เดชมากนักเกินจักขาน
อาจแบ่งภาคเปลี่ยนไปได้ตามกาล
คนขนานเรียกอย่างต่างกันไป








"ทุรคา" "กาลี" ล้วนมีเหตุ
ขจัดเภทพาลยักษ์ให้ตักษัย
จึงดุดันอาจองทะนงใจ
สามโลกไร้ผู้กล้ามาต้านทาน
แต่ยามเป็น "พระอุมา" สง่าศรี
พระทัยดีล้ำเลิศประเสริฐศานต์
อาจอำนวยพรชัยให้สราญ
มากประมาณตามจิตประสิทธิ์พลัน




ที่วัดแขกคนเคารพมานบไหว้
ขอพรให้โชคดีมีสุขสันต์
ประกอบกิจศาสนาสารพัน
อย่างเบื้องบรรพ์ประเพณีเคยมีมา
ทุกทุกปีมีงานการฉลอง
ตามครรลองเชื้อชาติศาสนา
"นวราตรี" พร้อมน้อมบูชา
สวดมนตราไสยเวทย์อย่างเพศพราหมณ์









ในราตรีที่สิบนั้นสืบสาน
พิธีการผุ้คนเหลือล้นหลาม
อัญเชิญเทวรูปออกนอกอาราม
คนติดตามแหนแห่พระแม่อุมา
ต่างเซ่นสรวงบวงพลีมีต่างต่าง
เหมือนแบบอย่างเชื่อกันนั้นหนักหนา
ให้ทุกข์ทนทุเรศน่าเวทนา
ทรมานกายาสารพัด
ทั้งทุบตีทิ่่มแทงดูแรงร้าย
ด้วยมุ่งหมายเทวีศรีสวัสดิ์
ทรงเมตตาอวยชัยให้พิพัฒน์
ช่วยขจัดขัดข้องพ้นผองภัย






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น